การมีกฎระเบียบที่เข้มงวดในตลาดหุ้นไทยคือหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยรักษาความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของตลาดนี้ กฎระเบียบเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องนักลงทุน ประกันความโปร่งใส และส่งเสริมการปฏิบัติที่ยุติธรรมในการทำธุรกรรม ในประเทศไทยมีหลายหน่วยงานภาครัฐและองค์กรอิสระที่รับผิดชอบในการดูแลตลาดหุ้น

  1. หน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้น: ก.ล.ต. ประเทศไทย
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลและควบคุมตลาดทุนในประเทศ โดย ก.ล.ต. มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่กำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินอย่างโปร่งใส
  2. กฎระเบียบการซื้อขายและการปกป้องนักลงทุน
    หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของกฎระเบียบในตลาดหุ้นไทยคือการปกป้องนักลงทุน โดยมีการควบคุมเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทต้องเปิดเผย การดำเนินการการเข้าซื้อหุ้น และการจัดการการทำธุรกรรมเพื่อป้องกันการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน นอกจากนี้ยังมีกฎระเบียบที่กำหนดให้บริษัทต้องอัพเดตข้อมูลทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ
  3. การปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศ
    ตลาดหุ้นไทยมีความพยายามที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศในการบริหารจัดการตลาดและการปกป้องนักลงทุน เช่น การปฏิบัติตามข้อกำหนดขององค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระหว่างประเทศ (IOSCO) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั่วโลก
  4. นโยบายสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ
    ตลาดหุ้นไทยมีนโยบายที่ค่อนข้างเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนใน SET ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดในบางภาคส่วน เช่น ภาคพลังงานและการสื่อสาร ที่มีข้อจำกัดการถือครองหุ้นโดยต่างชาติ นโยบายนี้เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนไปในเอเชีย

ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดและมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องทุกฝ่าย ตลาดหุ้นไทยจึงเป็นตลาดที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสำหรับนักลงทุน